--Advertisement--

ประวัติ ราอูล กอนซาเลซ บลังโก้ เจ้าชายแห่งแดนกระทิงดุ

         ราอูล กอนซาเลซ บลังโก้ หรือที่เรียกกันติดปากว่า ราอูล เกิดวันที่ 27 มิถุนายน ปี 1977 ที่ บียาเวอร์เด้ อัลโต้ อยู่บริเวณชานเมืองกรุงมาดริด ประเทศสเปน เขาเริ่มเข้าสู่วงการลูกหนังด้วยการเข้าร่วมทีมเยาวชนของ ซาน คริสโตบัล เดอ ลอส แอนเจลิส

         จากนั้นพ่อของเขาก็นำตัวลูกชายหัวแก้วหัวแหวนรายนี้ ไปเข้าทีมเยาวชนของแอตเลติโก มาดริด ในขณะที่ ราอูล มีอายุได้ 13 ปี และเขาก็เติบโต พัฒนาฝีเท้าขึ้นมาในทีมเยาวชนของทีม “ตราหมี” จนสามารถพาทีมคว้าแชมป์เยาวชนรุ่นอายุไม่เกิน 15 ปี ของสเปน มาครองได้ โดยมีความฝันว่าจะได้ก้าวขึ้นสู่ทีมชุดใหญ่ของแอตเลติโก มาดริด ในอนาคต

         แต่ฝันของ ราอูล ก็ต้องสลายไป เมื่อ เฆซุส กิล ประธานสโมสรแอตเลติโก มาดริด ในยุคนั้น สั่งยกเลิกโครงการผลิตนักเตะเยาวชนลงอย่างกะทันหัน เพราะจำต้องมีการประหยัดงบของสโมสร

         ด้วยเหตุนี้จึงทำให้ ราอูล ต้องหันไปเข้าร่วมทีมเยาวชนของรีล มาดริด ทีมคู่ปรับร่วมเมืองของ แอตเลติโก และเขาก็ประสบความสำเร็จในทีม “ราชันชุดขาว” ได้อย่างรวดเร็ว

         ราอูล ออกเริ่มต้นแห่งความยิ่งใหญ่ในอาชีพค้าแข้ง ด้วยการลงเล่นในทีมชุดซี หรือทีมระดับชั้น 3 ของ รีล มาดริด ในฤดูกาล 1994/1995 และได้สร้างความประทับใจให้กับสต๊าฟโค้ชด้วยการยิงได้ถึง 13 ประตู จากการลงสนามไปแค่ 7 นัด

         ด้วยฝีเท้าที่ยอดเยี่ยม บวกกับพรสวรรค์ ที่เปี่ยมล้น ของ ราอูล ทำให้ ฮอร์เก้ บัลดาโน่ ซึ่งเป็นเทรนเนอร์ของรีล มาดริด ในตอนนั้น ไม่อาจะอยู่เฉยได้ ต้องทำการเรียกตัวเขาขึ้นมาสู่ชุดใหญ่ของทีม และส่งเจ้าหนูราอูล ในวัย 17 ปีกับอีก 4 เดือน ลงสนามในนามของทีมชุดใหญ่ ทำให้ ราอูล กลายเป็นนักเตะที่อายุน้อยที่สุดที่ได้ลงสนามในทีมชุดใหญ่ภายใต้ตราสโมสรของราชันชุดขาว รีล มาดริด

         ฤดูกาลแรก กับทีมชุดใหญ่ของ รีล มาดริด ราอูลสามารถทำได้ 9 ประตู จากการลงสนาม 28 นัด ทั้งยังสามารถช่วยให้ทีมคว้าแชมป์ลา ลีกา มาครองได้

         หลังจากนั้น ราอูล ก็ค่อยๆก้าวขึ้นมาเป็นแกนหลักของรีล มาดริด และช่วยพาทีมคว้าแชมป์ลา ลีกา ในปี 1997, 2001 และ 2003 อีกทั้งคว้าแชมป์ยูฟ่า แชมเปี้ยนส์ ลีก ถึง 3 ครั้ง ในปี 1998, 2000 และ 2002

         สำหรับทีมชาติสเปน ราอูล ลงสนามให้ทีม “กระทิงดุ” ครั้งแรก ในครั้งที่เจอกับ สาธารณรัฐเช็ก ในเดือนตุลาคม ปี 1996 ตั้งแต่นั้นมาเขาก็ติดทีมชาติมาตลอด จนกลายเป็นกำลังสำคัญของทีมไปในที่สุด อย่างไรก็ตามทีมชาติสเปน มักไม่ค่อยประสบความสำเร็จในระดับนานาชาติ ไม่ว่าจะเป็น ฟุตบอลชิงแชมป์แห่งชาติยุโรป หรือ ฟุตบอลโลก โดยหลังจากที่ เฟร์นานโด เอียร์โร่ ประกาศอำลวงการฟุตบอลสเปน ไปเมื่อปี 2002 ราอูล ก็ได้รับการแต่งตั้งให้เป็นกัปตันทีมรีล มาดริด และทีมชาติสเปน แทนที่ เอียร์โร่

        ราอูล ลงสนามให้กับทีมชาติสเปน ไปแล้ว 92 นัด ทำได้ 42 ประตู เป็นเจ้าของสถิติยิงประตูให้ทีมชาติสเปน ได้มากที่สุดในประวัติศาสตร์ และยังเป็นเจ้าของสถิติเป็นนักเตะที่ไม่ใช่ผู้รักษาประตู ที่ลงสนามให้กับทีม “กระทิงดุ” มากที่สุด โดยได้ถือครองสถิตินี้ หลังจากลงสนามในนัดที่ สเปน พบ ซาน มารีโน่ ในฟุตบอลโลก รอบคัดเลือก เมื่อวันที่ 12 ตุลาคม ปี 2005

        ศูนย์หน้าดาวยิงชาวสแปนิชรายนี้ ผ่านการแข่งขันฟุตบอลโลก รอบสุดท้าย มาแล้ว 2 ครั้ง คือในปี 1998 ที่ฝรั่งเศส และ 2002 ที่เกาหลีใต้ และ ญี่ปุ่น ส่วน ฟุตบอลชิงแชมป์แห่งชาติยุโรป รอบสุดท้าย ราอูล ก็เล่นมาแล้ว 2 ครั้ง คือใน ยูโร 2000 โดยมี ฮอลแลนด์ กับ เบลเยี่ยม เป็นเจ้าภาพร่วม และ ยูโร 2004 ที่โปรตุเกส
ราอูล กอนซาเลซ บลังโก้

        หลังจากที่ ราอูล ทำประตูให้กับ รีล มาดริด ได้ ในนัดที่พบกับ โอลิมเปียกอส ในศึกยูฟ่า แชมเปี้ยนส์ ลีก เมื่อวันที่ 28 กันยายน ปี 2005 เขาก็กลายเป็นนักเตะคนแรกที่ทำประตูได้ถึง 50 ลูก ในการลงเตะรายการดังกล่าว มาแล้วถึง 97 นัด

        นอกจากนี้ ราอูล เขายังเป็น 1 ใน 10 ของนักเตะที่ยิงประตูได้มากที่สุดในลา ลีกา สเปน จากการซัดไป 180 ลูก ในการลงสนาม 400 นัด ให้กับรีล มาดริด และเขาก็ยังเป็นดาวยิงสูงเป็นอันดับ 3 ในประวัติศาสตร์ของทีม “ราชันชุดขาว” ซึ่งเขาก็มีโอกาสสูงที่จะสร้างสถิติเพิ่มขึ้นเรื่อยๆ

        ในช่วง 3 ปีที่ผ่านมานี้ ราอูล เริ่มโดนวิพากษ์วิจารณ์ว่าฟอร์มการเล่นตกลงไป เช่นเดียวกับผลงานของรีล มาดริด ทีมต้นสังกัด ที่ไม่ได้แชมป์รายการใดเลยมา 2 ปีแล้ว และในช่วงหลังๆนี้ ราอูล ก็มักจะถูกจับให้นั่งเป็นตัวสำรองอยู่บ่อยครั้ง ทำให้เหล่าแฟนๆเริ่มอดสงสัยไม่ได้ว่า “หรือจะหมดยุคทองของราอูลไปแล้ว”

        อย่างไรก็ตาม ชื่อของ ราอูล กอนซาเลซ ก็ยังเป็นที่เชื่อมั่นของแฟนบอลทั้งหลายว่าจะสามารถกลับมาคืนฟอร์มสุดยอดได้ อีกแน่นอน เพราะเขายังมีภารกิจสำคัญที่ต้องทำ นั่นคือการพาทีมชาติสเปน ประสบความสำเร็จ คว้าแชมป์รายการสำคัญในระดับนานาชาติเสียที หลังจากที่ประสบความสำเร็จมาทุกอย่างแล้วในการลงเล่นให้กับสโมสรรีล มาดริด

        ในฤดูกาล 2009/10 ราอูล ได้ทำสถิติอย่างหนึ่ง ให้กับตัวเขาเอง นั่นก็คือ การทำสถิติลงเล่นให้กับทีมราชันมากที่สุดแล้ว โดยวันที่ทำลายสถิติ นั่นคือ วันที่ 23 กันยายน 2009 ซึ่งราอูล ลงมาเป็นตัวสำรองในเกมทุบ "เรือดำน้ำสีเหลือง" บียาร์เรอัล ไปได้ 2-0 และยังคงได้ลงสนาม ต่อเนื่อง มาจนถึงปัจจุบัน

        และในปี 2010 ที่ผ่านมานี้เองที่เขาและเพื่อนๆได้พบกับความสำเร็จอันยิ่งใหญ่ที่ต่างก็เฝ้ารอกันมานาน นั่นก็คือ การที่เขาได้พาทีมชาติสเปนคว้าแชมป์รายการที่ยิ่งใหญ่ที่สุดในโลกของมวลมนุษยชาติ World cup 2010 ที่แอฟริกาใต้ได้สำเร็จ ถือได้ว่าเป็นความสำเร็จทียิ่งใหญ่มากของตัวเขา อยางจากการทีจะได้แชมป์โลกครั้งนี้เป็นการคว้าแชมป์โลกครั้งแรกของทีมชาติสเปน และยังเป็นการเกิดแชมป์ฟุตบอลโลกทีมใหม่ซึ่งเป็นทีมที่ 8 ของรายการนี้อีกด้วย

ที่มา sport-idol.com
Share this article :

แสดงความคิดเห็น

 
Support : Creating Website | Johny Template | Mas Template
Copyright © 2011. ผลบอลสด - All Rights Reserved
Template Created by Creating Website Published by Mas Template
Proudly powered by Blogger