--Advertisement--

ประวัติของ ชาบี้ อลอนโซ่

ข้อมูลส่วนตัว
ชื่อ    :    ชาเบียร์ อลอนโซ่ โอเลโน่
วันเกิด    :    25 พ.ย. 1981
เกิดที่    :    โตโลซ่า ,สเปน
ตำแหน่ง    :    กองกลาง
ส่วนสูง    :    183 ซม.
ฉายา    :    คุณชายลูกหนัง
สโมสรปัจจุบัน    :    ลิเวอร์พูล
หมายเลขเสื้อ    :    14

วัยเด็ก
ในวงการฟุตบอลมีหลาย ครอบครัวที่เป็นตระกูลฟุตบอลขนานแท้ สานต่อกันมารุ่นสู่รุ่น ซึ่งหนึ่งในตระกูลนักฟุตบอลที่กำลังมีทายาทโด่งดังในขณะนี้คือตระกูล "อลอนโซ่" แห่งสเปน ที่มีทายาทมาดคุณชาย "ชาบี้ อลอนโซ่" เป็นความภูมิใจของตระกูลอยู่ในเวลานี้


Xavi Alonso หรือในชื่อเต็มๆ ว่าชาเบียร์ อลอนโซ่ โอลาโน่ ทายาทของตระกูลนักฟุตบอลอลอนโซ่ ซึ่งสืบสายเลือดมาจากบิดา เปริโก้ อลอนโซ่

อดีตดาวดังของบาร์เซโลน่า และเรอัล โซเซียดาด ในยุค 80 ซึ่งทีมหลังกลายเป็นสโมสรที่เป็นรากฐานชีวิตให้กับตระกูลอลอนโซ่รุ่นหลังไป ด้วย

Xavi Alonso
Xavi Alonso

โดยป๊ะป๋า เปริโก้ หนีบกระเตงเอาลูกชายทั้งสองคน มิเกล กับชาเบียร์ มาบ่มเพาะวิชาลูกหนัง (ส่วนพี่ชายอีกคน จอน อลอนโซ่ เป็นผู้ตัดสิน) ซึ่งทั้งมิเกลและชาเบียร์ ก็เติบโตได้ดิบได้ดีในทีมเยาวชนของเรอัล โซเซียดาดมาพร้อมๆกัน และเล่นในบทบาทเดียวกันด้วยคือกองกลาง

เรอัล โซเซียดัด

แต่พรสวรรค์ในตัว ของชาเบียร์ ดูจะเปล่งประกายกว่ามิเกล ผู้พี่มาก และด้วยวัย เพียง 18 ปี ชาเบียร์ หรือต่อมาเรียกกันสั้นๆติดปากว่า "ชาบี้" อลอนโซ่ ก็ได้ลงเล่นเป็นเกม แรกในชีวิตภายใต้เสื้อลายทางน้ำเงิน-ขาว ของเรอัล โซเซียดาด 

ในสนามซาน เซบาสเตียน ของตัวเองโดยมีโลโกรนเญส มาเยือนในวันที่ 1 ธ.ค.1999 ก่อนที่จะลง เล่นไปอีก 14 นัดในฤดูกาล 1999-00

หลังจากนั้นในฤดู กาลถัดมา ชาบี้ ถูกส่งตัวให้เอยบาร์ สโมสรเล็กๆ ยืมตัวไปใช้งานเพื่อสะสมประสบการณ์ ซึ่งแม้ว่าจะไม่ค่อยได้ลง สนามเท่าไหร่ แต่เมื่อกลับมายังซาน เซบาสเตียน อีกครั้งคราวนี้เจ้าหนูชาบี้ อลอนโซ่ ก็กลายเป็น ขวัญใจคนใหม่ของชาวโซเซียดาด ไปในทันที

พรสวรรค์ของอลอนโซ่ เปล่งประกายในแดนกลางของโซเซียดาด จากสไตล์การเล่นอันเป็นเอกลักษณ์โดยเฉพาะจินตนาการในการสร้างสรรค์เกมรุกให้ กับโซเซียดาดด้วยการวางบอลที่แม่นยำราวจับวาง

Xavi Alonso

ในฤดูกาลนั้น (2002-03) โซเซียดาด เขาสามารถสร้างประวัติศาสตร์ด้วยการ คว้าตำแหน่งรองแชมป์ได้อย่างเหลือเชื่อ ซึ่งแน่นอนว่าอลอนโซ่ มีส่วนอย่างยิ่ง ต่อความสำเร็จของทีมครั้งนี้

ชีวิตของมิดฟิลด์ เท้าชั่งทองยังพุ่งขึ้นต่อเนื่องโดยถูกเรียกตัวติดทีมชาติสเปนเป็นครั้งแรก ในช่วงปลายฤดูกาลดังกล่าว เมื่อวันที่ 30 เม.ย. ในเกมที่ พบกับเอกวาดอร์ ซึ่งอลอนโซ่ ในวัย 21 ปี มีส่วน ช่วยให้ทีมถล่มอาคันตุกะจากละตินอเมริกาไปถึง 4-0

Xavi Alonso


อย่างไรก็ดี ในฤดูกาลถัดมาอลอนโซ่ ก็มีปัญหากับฟอร์มการเล่นที่ถดถอยลงไป เช่นเดียวกับโซเซียดาด ที่ไม่อาจสร้างปรากฎการณ์ได้เหมือนเดิมอีกโดยทำ

ฤดูกาลแรก ที่แอนฟิลด์ 2004-2005

แต่ชีวิตของอลอนโซ่ ก็ถูกจุดเปลี่ยนสำคัญอีกครั้งเมื่อเขาได้รับการทาบทามจากราฟาเอล เบนิเตซ ยอดกุนซือชาวสเปน ให้ไปช่วยงานในชีวิตใหม่ที่อังกฤษกับทีม "หงส์แดง" ลิเวอร์พูล ซึ่งอลอนโซ่ เป็นหนึ่งในผู้เล่นชุดแรกที่ราฟา ดึงตัวเข้าไปสร้างทีม

ที่เมอร์ซี่ย์ไซด์ อลอนโซ่ สามารถแจ้งเกิดในฐานะจอมทัพคนสำคัญในแดนกลางเสริมทีมโดยได้จับคู่กับสตีเว่น เจอร์ราร์ด กัปตันแห่งแอนฟิลด์และกลายเป็นคู่หูกองกลางที่ดีที่สุดคู่หนึ่งของพรีเมียร์ ชิพในเวลาไม่นานนัก

การวางบอลยาวที่แม่นยำราวจับวางและการยิงไกลที่หวังผลได้รวมถึง ลูกฟรีคิกระยะอันตรายที่ปล่อยผ่านไม่ได้ ทำให้อลอนโซ่ ได้รับการยอมรับจากแฟนๆและบรรดากูรูลูกหนังในเมืองผู้ดีอย่างรวดเร็ว ถึงขั้นที่ได้รับการยกย่องว่าเป็นหนึ่งในกองกลางที่เก่งที่สุดในยุโรปของยุค นี้เลยทีเดียว

และเพียงแค่ฤดูกาลแรกอลอนโซ่ ก็ได้สัมผัสเกียรติยศที่ยิ่งใหญ่ด้วยการคว้าแชมป์ยูโรเปี้ยน คัพ สมัยที่ 5 ของลิเวอร์พูล ได้ในเกมสุดมหัศจรรย์เมื่อทีมไล่ตามหลังเอซี มิลาน 3-0 และมาไล่ตีเสมอได้เป็น 3-3 ซึ่งอลอนโซ่ เป็นคนทำประตูตีเสมอ 3-3 ให้ทีมได้ในช่วงต้นครึ่งหลัง โดยทีแรกได้ยิงลูกจุดโทษแต่โดนดีด้า เซฟได้ก่อนที่จะตามเข้าซ้ำได้อย่างรวดเร็ว และท้ายที่สุดลิเวอร์พูล ก็เป็นฝ่ายชนะในการดวลจุดโทษ

อลอนโซ่ กลายเป็นกองกลางคนสำคัญที่ขาดไม่ได้ของลิเวอร์พูล ถึงขั้นที่มีการบอกว่าลิเวอร์พูลจะขาดเจอร์ราร์ดก็ได้ไม่เป็นไรแต่ขาดอลอน โซ่ไม่ได้เด็ดขาดเลยทีเดียว (แต่ขณะเดียวกันก็มีการแซวช็อตที่คู่นี้ "จูบ" กันในอิสตันบูล จนเป็นข่าวฮือฮาว่าแอบเกย์กันทั้งคู่ !!)

ฤดู กาล2005-2006

ในฤดูกาลถัดมา อลอนโซ่ ยังคงทำผลงานได้ดีสม่ำเสมอแม้จะเปลี่ยนคู่ขาเป็นโมฮัมเหม็ด ซิสโซโก้ กองกลางดาวรุ่งดวงใหม่ที่ย้ายมาจากบาเลนเซีย และทำประตูมหัศจรรย์ได้ด้วยการยิงไกลกว่าครึ่งสนามในเกมเอฟเอ คัพ รอบที่ 3 กับลูตัน ทาวน์ ซึ่งต่อมามีการเปิดเผยว่ามีแฟนบอลรายหนึ่งโชคดีได้รับทรัพย์ถึงกว่า 25,000 ปอนด์เพราะไปแทงไว้ว่าอลอนโซ่ จะยิงจากครึ่งสนามเข้า

และฤดูกาลนี้กองกลาง มาดคุณชายได้สัมผัสแชมป์อีกครั้งกับรายการเอฟเอ คัพ ในเกมนัดชิงชนะเลิศที่ตื่นเต้นไม่แพ้กับเกมนัดชิงกับมิลานเลย ด้วยการเฉือนเอาชนะเวสต์แฮมในการดวลจุดโทษ

ฟุตบอล โลก2006 และฤดูกาล2006-2007, 2007-2008

กับทีมชาติสเปน อลอนโซ่ ยังคงเป็นส่วนหนึ่งที่สำคัญแม้ว่าจะมีคู่แข่งพร้อมแย่งชิงตำแหน่งมากมายทั้ง ดาวิด อัลเบลด้า ,รูเบน บาราฆา ,ชาบี้ เอร์นานเดซ รวมถึงน้องใหม่ไฟแรงอย่าง เซสก์ ฟาเบรกาสด้วย  ซึ่งในฟุตบอลโลก 2006 อลอนโซ่ ก็ติดทีมไปด้วยและเป็นคนยิงประตูแรกของสเปนได้ในเกมกับยูเครน ซึ่งเป็นประตูแรกและเป็นประตูเดียวที่อลอนโซ่ ทำได้ในทีมชาติแต่น่าเสียดายที่ทีมกระทิงดุต้องร่วงตกรอบอย่างรวดเร็วเพียง รอบ 16 ทีมสุดท้ายเท่านั้น

สำหรับในฤดูกาลนี้ ผลงานของอลอนโซ่ ตกลงไปจากมาตรฐานเดิมเล็กน้อย แต่กระนั้นก็ยังทำประตูมหัศจรรย์ด้วยการยงิครึ่งสนาม (อีกแล้ว!) ในเกมที่พบกับนิวคาสเซิล และเป็นกำลังสำคัญที่ขาดไม่ได้ในแดนกลางของลิเวอร์พูลอยู่เหมือนเดิม

แม้จะเริ่มมีข่าว ว่ามีสโมสรยักษ์ใหญ่ในบ้านเกิดอย่างแอตเลติโก มาดริด และบาร์เซโลน่า อยากได้ตัวไปร่วมทีมก็ตาม และยังมีคู่แข่งหน้าใหม่อย่างฮาเวียร์ มาสเคราโน่ แต่อลอนโซ่ ก็ยังยืนยันว่าต้องการที่จะอยู่ที่แอนฟิลด์ต่อไป และพร้อมจะต่อสัญญาออกไปหลังจบฤดูกาลนี้ ด้วยความหวังว่าจะได้สัมผัสแชมป์พรีเมียร์ชิพกับลิเวอร์พูลซักครั้งในอีก 2-3 ปีข้างหน้า

ยูโร2008 และฤดูกาล2008-2009

หลังจากฤดู กาล2007-2008ยุติลง แต่ก็ยังมีทัวร์นาเมนต์ฟุตบอลยูโร2008 ที่อลอนโซ่ยังมีภารกิจอยู่ ถึงแม้ว่าจะเป็นแค่วสำรองในทีมชาติ แต่เขาก็มักจะเป็นตัวเลือกแรกๆเสมอในการถูกส่งลงสนาม และเขาก็ถูกยกให้เป็นกัปตันทีม ในนัดสุดท้ายของกลุ่ม ที่เจอกับกรีซ ได้รับเลือกให้เป็นนักเตะยอดเยี่ยมประจำเกมด้วย จนในที่สุดเขาก็พาทีมชาติสเปน คว่ำเยอรมันลงลงได้สำเร็จในนัดชิงชนะเลิศ เถลิงบัลลังก์แชมป์เป็นครั้งแรกได้อย่างยิ่งใหญ่

ในช่วง ซัมเมอร์ปี2008มีข่าวลือหนาหูว่าลิเวอร์พูลจะเอาแกเร็ต แบร์รี่ เข้ามาแทนเขา แต่ในที่สุดการเจราจาก็ต้องชะงักลง เพราะตกลงค่าตัวกันไม่ได้ ทำให้เขาต้องอยู่ในถิ่นแอนฟิลด์ต่อในแบบเสียความรู้สึกพอสมควร



ในฤดูกาล นี้อลอนโซ่ยิงประตูสำคัญได้ในเกมเยือนเชลซีโดยทำประตูชัยเฉือนชนะ1-0หยุด สถิติไม่แพ้ใครที่สแตมฟอร์ดของเชลซีลงได้ในรอบ4ปี หลังจากโชว์ฟอร์มได้อย่างยอดเยี่ยม ในวันที่11ธันวาคม เขาก็เป็นคนแรกของพรีเมียร์ลีก ที่ผ่านบอลได้มากที่สุดถึง100ครั้ง และท้ายที่สุดถึงแม้เขาจะไม่ค่อยพอใจเท่าใดนัก หลังจากที่จะถูกขายออกไป แต่เขาก็ทำหน้าที่ของตัวเองได้อย่างยอดเยี่ยมและเป็นฤดูกาลที่ดีที่สุดของ เขานับตั้งแต่ย้ายมาอยู่กับลิเวอร์พูล

ฤดูกาล 2009/10 กับต้นสังกัดใหม่"ราชันชุดขาว"

หลังที่ช่วงปิดฤดูกาล ทีมชุดขาวให้การสนใจตัวอลอนโซ่ เป็นอย่างมาก ตามจีบให้ไปร่วมทีมอยู่หลายต่อหลายครั้ง ซึ่งเจ้าตัวก็ไม่แสดงท่าทีว่าอยากไป แต่ถึงกระนั้นก็ไม่ได้ทำตัวเหมือนกับว่าอยากอยู่กับทีม

แต่ในท้ายที่สุดแล้ว ดูเหมือนว่าทางทีมดังจากเกาะอังกฤษจะรั้งตัวไว้ไม่ไหว ในที่สุดก็ต้องยอมขายอลอนโซ่ ให้กับทีมมาดริดไป ในสนนราคา 30 ล้านปอนด์ และสวมเสื้อเบอร์ 22 ของทีมชุดขาว อยู่ในขณะนี้

คอนเฟดเดอเร ชั่นคัพ2009

อลอนโซ่ถูกเรียกตัวมาติดทีมชาติสเปนเพื่อไป ทำการแข่งขันรายการสำคัญอย่างคอนเฟดเดอเรชั่นคัพ2009ที่แอฟริกาใต้เป็นเจ้า ภาพ แต่สเปนต้องอกหักตกรอบรองไปอย่างช็อกโลก พ่ายให้กับอเมริกาไป0-2

ในช่วงซัมเมอร์นี้ อลอนโซ่ยังตกเป็นข่าวหนาหูว่าจะย้ายทีมอีกครั้งโดยมีทีมอย่างเรอัล มาดริด เป็นตัวเต็งที่จะได้เขาไปร่วมทีม

ฟุตบอลโลก 2010
และในการแข่งขันฟุตบอลรายการใหญ่ที่สุดในโลกเมื่อปี 2010 ที่ผ่านมานี้เองที่เขาและเพื่อนร่วมชาติจะไม่มีวันลืมเลยไปตลอดชีวิตก็คือ การที่เขาและเพื่อนๆได้ช่วยกันพาทีมชาติสเปนคว้าแชมป์ฟุตบอลโลกปี 2010 ได้ หลังจากที่เอาชนะทีมชาติเนเธอร์แลนด์ไปได้ด้วยสกอร์ 2-1 ทำให้เวลานั้นเป็นเวลาที่ยิ่งใหญ่ที่สุดของชาวสเปนที่จะต้องได้รับการจาลึกไว้ในประวัติศาสตร์ของสเปนกันเลยว่า สเปนเคยได้เป็นแชมป์ฟุตบอลโลกที่ถือว่าเป็นรายการแข่งขันกีฬาทียิ่งใหญ่ที่สุดในโลก ในปี 2010

ชีวิตส่วนตัว

อลอน โซ่ค่อนข้างจะเป็นคนเงียบขรึมแต่มีมนุษย์สัมพันธ์ดี เขามีลูกกับ นาโกเร่ อารานบูรู และมีลูกชาย1คน ชื่อ คอนชู อลอนโซ่

เขามีบ้านอยู่ใน เมอร์ซี่ย์ไซด์ และเป็นเพื่อนสนิทกับมิเกล อาร์เตต้า มิเกล อลอนโซ่ พี่ชายของ ชาบี้ อลอนโซ่ ก็มาเล่นในแบบยืมตัวกับโบลตัน วันเดอร์เรอส์ ในปี2008-2009

http://www2.pictures.zimbio.com/gi/Real+Madrid+v+Deportivo+La+Coruna+La+Liga+UpUZgpr9zukl.jpg

ที่มา sport-idol.com
Share this article :

แสดงความคิดเห็น

 
Support : Creating Website | Johny Template | Mas Template
Copyright © 2011. ผลบอลสด - All Rights Reserved
Template Created by Creating Website Published by Mas Template
Proudly powered by Blogger